มื้ออาหารธรรมดากำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ของร้านอาหารสีสด บาย บานาน่า ลีฟ พร้อมกับบริการ ไรซ์บาร์ (Rice Bar) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน นอกจากอิ่มหนำกับอาหารไทยในรสชาติที่คุ้นเคย ยังได้สนุกกับการเลือกข้าวคุณภาพดีหลากหลายสูตรที่ส่งตรงจากเกษตรกรมาเสิร์ฟไม่พอ ยังมีบริการขัดข้าวแบบสดๆ ให้ได้ฟินกับรสสัมผัสของข้าวในแบบที่หลายคนอาจไม่เคยลิ้มรสมาก่อน แถมยังดีต่อสุขภาพ เพราะการขัดสดทำให้คงคุณประโยชน์ของข้าวไว้ได้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลว่ามีการเคลือบสารเคมีกันมอดหรือแมลง ประเดิมเปิดตัวสาขาแรก ณ เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2563
ปวันรัตน์ ธนสารศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการ บริษัท จิตต์ธนา จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 แห่งร้านอาหารไทย บานาน่า ลีฟ เผยถึงที่มาของการแตกไลน์ธุรกิจมาสู่ร้านอาหารไทยแนวใหม่ว่า นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้า ปรับลุคให้แบรนด์เด็กลง ยังต้องการนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้าในรูปแบบที่เรียกว่า Mixtaurant ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้มากกว่าความอร่อย แต่ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ โดยเลือกประเดิมคอนเซ็ปต์ใหม่ที่สาขา เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เป็นแห่งแรก เพราะอยู่ในทำเลที่เป็น คอมมูนิตี้ มอลล์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีเวลาและพร้อมจะร่วมทำกิจกรรมมากกว่าแค่การกินอาหาร
“จุดเด่นของร้านสีสด แน่นอนว่า อาหารไทยในรสชาติที่คุ้นเคยยังคงเป็นแกนหลัก แต่ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ ไรซ์บาร์ ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการจะเลือกทานอาหารเฉยๆ ก็ได้ แต่ถ้าอยากลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ต้องมาที่ ไรซ์บาร์ ซึ่งมีข้าวออร์แกนิค ถึง 6 สูตรมาให้เลือก คือ ข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค, ข้าวสูตรบำรุงผิวและความงาม, ข้าวสูตรควบคุมน้ำหนัก, ข้าวสูตรเด็กเล็กเพื่อพัฒนาการ, ข้าวสูตรควบคุมน้ำตาล,ข้าวหอม 5 สายพันธุ์ ที่ล้วนมีสารอาหารเด่น กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่แตกต่างกันมาให้ลูกค้าได้เลือก นอกจากจะแค่เลือกเมนูอาหารจานโปรด”
“หลังจากเลือกสายพันธุ์ข้าวที่ชอบได้แล้ว ประสบการณ์พิเศษที่ลูกค้าจะได้รับเพิ่มเติม คือ ทางร้านมีบริการขัดข้าวสด ด้วยเครื่องไมโกะ พลัส นวัตกรรมสุดล้ำ ขัดแล้วลูกค้าจะเลือกนำกลับไปหุงที่บ้าน หรือ ให้ทางร้านบริการหุงเสิร์ฟกับเมนูอาหาร โดยถ้าเลือกหุงเพื่อรับประทานที่ร้าน อดใจรอไม่นาน เพียง 15 นาที ก็จะได้ลิ้มรสข้าวหอมนุ่ม เหนียว หนึบ แสนอร่อย”
ด้าน วัชรา ลี้โกมลชัย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ซีแอลพี สาวเก่งที่คลุกคลีกับวงการข้าวไทยมานาน จนเกิดไอเดียรังสรรค์เครื่องขัดข้าวสำหรับใช้ในครัวเรือน ก่อนจะต่อยอดมาสู่ Rice Bar (ไรซ์บาร์) สุดเก๋ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สุขภาพ ยังมองไกลไปถึงการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เสริมว่า คนไทยเรากินข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ที่ผ่านมา ด้วยเส้นทางของข้าวจากเกษตรกรกว่าจะถึงผู้บริโภคต้องใช้ระยะเวลานาน ทำให้รสสัมผัส คุณประโยชน์และคุณค่าที่แท้จริงของข้าวหายไปจากช่วงเวลาอันยาวนานหลังการสีข้าว กว่าจะนำมาหุง จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่พลาดโอกาสที่จะได้รับรู้รสชาติหรือคุณค่าที่แท้จริงข้าวเลย
“ช่วงชีวิตของข้าวไม่ได้มีอยู่นาน แค่หนึ่งเดือนหลังการสี หนึ่งอาทิตย์หลังการขัด ดังนั้น การสีและขัดข้าวสดๆ คือ วิธีเดียวที่จะคงชีวิตของข้าวให้อยู่เต็มที่ จึงกลายเป็นที่มาให้ CPL Living ร่วมกับทางญี่ปุ่น และหมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมเครื่องขัดข้าว ไมโกะ พลัส ขึ้นเพื่อใช้ในบ้าน และนำมาเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของไรซ์บาร์ มอบประสบการณ์ทานข้าวรูปแบบใหม่ให้ช่วงเวลาทานข้าวพิเศษกว่าเคย ได้ทานอาหารไทยที่อร่อยพร้อมกับรสชาติข้าวที่ดีที่สุดจากการสีสดใหม่ ซึ่งเราพิถีพิถันตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวเพื่อนำมาเบลนด์ให้ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการ โดยลูกค้าสามารถเลือกอิ่มอร่อยที่ร้าน หรือ ซื้อกลับไปหุงที่บ้านก็ได้”
ด้าน หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล แพทย์ชำนาญการด้านผิวหนัง และเวชศาสตร์ชะลอวัยเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพหนึ่งในพันธมิตรคนสำคัญ ที่ไม่เพียงเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนา ไมโกะ พลัส ยังนำความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามมาต่อยอดสู่การผสานคุณประโยชน์จากสายพันธุ์ที่หลากหลายของข้าวให้คนไทยได้รับโภชนาการที่เหมาะสมตามความต้องการที่ต่างกัน และ ได้อรรถรสสูงสุดของข้าว “พื้นฐานที่สำคัญของสุขภาพดีและความงามเริ่มจากอาหารที่กิน สำหรับคนไทยข้าวคือหัวใจของมื้ออาหาร ผมและครอบครัวเลือกกินข้าวกล้องเป็นประจำ เพราะมีประโยชน์มากกว่า ยิ่งเป็นข้าวกล้องที่ขัดสดใหม่ ประโยชน์และสารอาหารก็ยิ่งสูงขึ้นกว่าข้าวกล้องทั่วไป และเพื่อให้ทุกคนสามารถอิ่มอร่อยกับข้าว ผมยังได้ร่วมพัฒนาสูตรข้าวกล้องให้เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละคน ซึ่งทั้ง 6 สายพันธุ์ที่ผมคิดค้นและเบลนด์ขึ้นมา มีให้เลือกที่ร้านสีสด บาย บานาน่าลีฟ แล้ว”
สำหรับบรรยากาศการตกแต่งร้านสีสด บาย บานาน่าลีฟ สองผู้บริหารคนเก่งตั้งใจเน้นบรรยากาศให้ เหมือนนั่งกินข้าวที่บ้าน โดยเลือกผสมผสานความเป็นธรรมชาติของการนำวัสดุอย่างไม้กับความเป็น อินดัสเทรียลของเหล็ก เพื่อสะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติแต่แฝงไปด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย นอกจากกิมมิคอย่าง “ไรซ์บาร์” ที่จะเข้ามาเพิ่มสีสันในร้านอาหาร และเปลี่ยนประสบการณ์มื้ออาหารแสนธรรมดาให้น่าจดจำไม่รู้ลืม ในอนาคตยังมีแผนจะจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปในหลากหลายรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น การจัดดอกไม้ คัดลายมือ เพื่อให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ กับร้านอาหารมากขึ้น
เมนูซิกเนเจอร์ที่มาแล้วต้องลอง ได้แก่ “ข้าวอบกะปิ” หรือ มินิบับสัญชาติไทย ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวที่สีสดใหม่เสิร์ฟในหม้อคาเมชิร้อน พร้อมเครื่องเคียง ผัก หมูหวาน และกะปิสูตรเฉพาะของทางร้าน เป็นกิมมิกให้คลุกเคล้าปรุงรสชาติด้วยตัวเอง ถัดมาคือ “ข้าวกระเพราไข่ออนเซ็น” จัดจ้านถึงเครื่อง เสิร์ฟในข้าวอบร้อนๆ ราดด้วยไข่ออนเซ็น ถ้ายังแซ่บไม่พอ ต่อด้วย “น้ำพริกต้มยำกุ้ง” ฉีกกฎต้มยำกุ้งแบบเดิมๆ ด้วยการนำต้มยำกุ้งมาคั่วผสมกับน้ำพริกสูตรลับของทางร้านได้รสเผ็ดจัดจ้าน ทานคู่กับเครื่องเคียง อีกเมนูน่าลอง คือ “ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ” เมนูนี้จะได้ฟินกับหมูกรุบกรอบคำโตไม่พอ มาแล้วต้องอย่ารีรอ เพราะของอร่อยแบบนี้มีจำนวนจำกัดต่อวัน
นอกจากเมนูจานหนัก ยังมีอาหารเบาๆ ถ้าชอบสลัด แนะนำ “สีสด เฮาส์ สลัด” เสิร์ฟผักออร์แกนิค คู่กับเนื้อปูก้อนโต โรยด้วยรำข้าว จากนั้นล้างปากด้วยของหวานดับร้อนด้วย “ไอศครีมกะทิ บัวลอยมันม่วง” และ “มะพร้าวอ่อนหวานเย็น” ปั่นเกล็ดหิมะ “โรสลิ้นจี่โซดา” และ “Plum Sprite Soda” เมนูเรียกความสดชื่นชั้นดี ส่วนใครที่คิดถึงเมนูสุดฮิตจาก บานาน่าลีฟ เช่น ไก่มะนาว, ปลากะพงทอดน้ำปลา, เมี่ยงคำ และเมี่ยงกลีบบัว ก็ยังคงมีให้เลือกรับประทานอยู่เช่นเดิม
ดื่มด่ำกับรสชาติของข้าวสีสดใหม่และอาหารไทยต้นตำรับ พร้อมเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับไรซ์บาร์ ณ ร้านสีสด บาย บานาน่าลีฟ สาขา เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 22.00น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สีสด Si-Sod by Banana Leaf